การเรียนแบบเชิงรุก
การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
บ้างก็เรียนตามคำบอกเล่าสั่งสอน บ้างก็ใช้วิธีครูพักลักจำจากสิ่งที่ได้เรียนรู้แล้วนำมาปรับไปตามสถานการณ์ที่พบ
เกิดประสบการณ์ที่ทำให้พฤติกรรมของเราเปลี่ยนแปลง
วันนี้จึงขอนำการเรียนรู้ที่น่าสนใจแบบหนึ่งมาเสนอ
คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา อธิบายว่า การเรียนรู้เชิงรุก (active learning) หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้
เรียนมีบทบาทในกิจกรรมการเรียนอย่างตื่นตัวและมีชีวิตชีวา
เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนริเริ่มและดำเนินการเรียนรู้อย่างใส่ใจ
จดจ่อกับเนื้อหาและเรื่องที่เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการ โดยมีการริเริ่มความคิด
สร้างความรู้ มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
และแสดงออกไม่ว่าจะเป็นท่าทางหรือวาจา มิใช่เป็นเพียงผู้รับความรู้เท่านั้น ผู้สอนต้อง
มีบทบาทในการเร้าความสนใจและสร้างบรรยากาศในการเรียน
โดยใช้กลยุทธ์แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์
การจัดการเรียนรู้เชิงรุกสามารถทำได้ทั้งในและนอกห้องเรียน
รวมทั้งสามารถใช้ได้กับผู้เรียนทุกระดับ ทั้งการเรียนรู้เป็นรายบุคคลและการเรียนรู้แบบกลุ่ม
การจัดการเรียนรู้เชิงรุกมีได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อหาวิชา บุคลิกภาพของผู้สอน
ลักษณะของผู้เรียนรวมทั้งสภาพแวดล้อม เช่น การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด
การเรียนรู้แบบสืบสอบ การเรียนรู้แบบค้นพบ วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เหล่านี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดสำคัญ
คือให้ผู้เรียนเป็นผู้มีบทบาทหลักในการเรียนรู้ของตนเอง
การเรียนรู้เชิงรุกเป็นการเรียนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด
ส่วนผู้สอนทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
ซึ่งทำให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ พัฒนาความสามารถ
เกิดเจตคติที่ดีและมีประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้เชิงรุกช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
เข้าใจ จดจำ และประมวลผลข้อมูลที่เรียน และทำให้บทเรียนและกิจกรรมการเรียนการสอนมีความหมาย
และน่าสนใจทั้งผู้สอนและผู้เรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น