การเลือกสื่อดิจิทัล
วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562
สรุป
สรุป
การประเมินอิงมาตรฐานระดับที่มีความสำคัญที่สุดคือการจัดการเรียนรู้หรือการเรียนการสอน นั้นประสบผลสำเร็จ โดยดูจากผู้เรียนมีความรู้
และทักษะเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ กล่าวได้ว่า
โปรแกรมการเรียนการสอนมีประสิทธิผลระดับใดอีกประเด็นหนึ่งคือการจัดการเรียนรู้หรือการเรียนการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ได้โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จํากัด
กล่าวได้ว่าการจัดการเรียนรู้หรือการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพระดับใดการประเมินคุณภาพภายใน เป็นการประเมินให้ ความสำคัญที่กระบวนการ (process) การประเมินคุณภาพภายในเป็นการประเมินในระหว่างจัดการเรียนรู้หรือการเรียนการสอนมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้และปรับปรุงสื่อ
นวัตกรรมการเรียนการสอน ส่วนการประเมินคุณภาพภายนอก เป็นการประเมินที่มุ่งตอบคำถามว่า
การ จัดการเรียนการสอนประสบความสำเร็จตามแผนที่วางไว้หรือไม่
ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามที่หลักสูตรกำหนด ไว้หรือไม่ คำถามหลัก คือ
ผู้เรียนสามารถปฏิบัติงานหลังจากการเรียนการสอนได้หรือไม่ กระบวนการมี
ขั้นตอนใดที่มีปัญหาอุปสรรค เพื่อนำไปเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้บริหารได้พัฒนาในโอกาสต่อไป
การกําหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้
การกําหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้
The SOLO taxonomy
The SOLO taxonomy เป็นการจัดระดับเพื่อประโยชน์ในการแสดงคุณสมบัติเฉพาะในระดับต่าง
ๆ กันของคําถาม และคําตอบที่คาดว่าจะได้รับจากผู้เรียน
เป็นชุดของเกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้ที่เป็น ผลงานของ Biggs and Collis
(1982) “SOLO, มาจากคําว่า Structure of Observed Learning
Outcome, เป็นระบบที่นำมาช่วยอธิบายว่า
ผู้เรียนมีพัฒนาการการปฏิบัติที่ซับซ้อนอย่างไร ในการเรียนเพื่อรอบรู้ที่มีความ
หลากหลายของภาระงานทางวิชาการ โดยที่นิยามจุดประสงค์ของหลักสูตร
ในสภาพที่พึงประสงค์ของการ ปฏิบัติ
เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนที่ปฏิบัติได้จริง
การใช้ SOLO Taxonomy ในการกำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้ solo Taxcashiriy คือ
การกำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งไม่มุ่งเน้นเฉพาะการ
แนนจากผลงานเท่านั้น แต่ SOLO Taxonomy เป็นกระบวนการที่ให้ความสำคัญว่า
พบ สิ่งที่สําคัญประการหนึ่งคือ ครูจะมีวิธีสอนอย่างไร
ที่ผู้เรียนได้ใช้ปัญญาที่มีความ เกิดพัฒนาการมากขึ้น SOLO Taxonomy ได้รับการเสนอโดย Biggs และ ColisThe SOLO taxonomy เป็นชุดของเกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้ที่เป็นผลงานของ
Biggs and collis (1982) “SOLO,
มมาจากคำว่า structure of observed Learning outcome, : เป็นระบบที่นำมาช่วยอธิบายว่าผู้เรียนมีพัฒนาการปฏิบัติที่ซับซ้อนอย่างไรในการเรียนเพื่อรอบรู้ที่มีความหลากหลายของภาระงานทางวิชาการ
โดยที่นิยามจุดประสงค์ของหลักสูตร ในสภาพที่พึงประสงค์ของการปฏิบัติ
เพื่อประเมินผลการ เรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนที่ปฏิบัติได้จริง
การใช้ SOLO taxonomy จะช่วยให้ทั้งครูและผู้เรียนตระหนักถึงองค์ประกอบที่หลากหลายจาก
หลักสูตรได้อย่างแจ่มชัดขึ้นแนวคิดดังกล่าวถูกนำไปกำหนดเป็นนโยบายใช้ในการประเมินใoมหาวิทยาลัย
และสถาบันการศึกษาหลายแห่ง สืบเนื่องจากสามารถนำไปใช้ได้ในหลายสาขาวิชา การประเมิน
ความสามารถในการปฏิบัติของผู้เรียนอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาผู้เรียนในแง่ของความเข้าใจที่ซับซ้อน
ซึ่ง ความเข้าใจดังกล่าวแบ่งได้เป็น 5 ระดับ (1) ระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐาน (Pre-structural) (2) ระดับโครงสร้าง
เดี่ยว (Uni-structural) (3) ระดับโครงสร้างหลากหลาย (Multi-structural)
(4) ระดับความสัมพันธ์ของ โครงสร้าง (Relational Level) และ(5) ระดับแสดงความต่อเนื่องในโครงสร้างภาคขยาย (Extended
Abstract Level)
โครงสร้างการสังเกตผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
Biggs และ Collis เสนอวิธีการไว้ดังต่อไปนี้
1) กําหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ผู้เรียนปฏิบัติในบทเรียน
(To set learning objectives appropriate to where a student should be at
a particular stage of their program) และ2) ประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน
(To assess the learning outcomes attained by each student) เมื่อเขียนวัตถุประสงค์การเรียนรู้ต้องมั่นใจว่า
คํากริยาที่นํามาใช้เพื่อการประเมินมีความถูกต้องเหมาะสมในแต่ละระดับ ดังนี้
• ระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐาน
(Pre-structural) นักเรียนได้รับข้อมูลเป็นส่วน ๆ ที่ไม่
ปะติดปะต่อกัน ไม่มีการจัดการข้อมูล และความหมายโดยรวมของข้อมูลไม่ปรากฏ
• ระดับโครงสร้างเดี่ยว
(Uni-structural) ผู้เรียนเชื่อมโยงข้อมูลพื้นฐาน
ง่ายต่อการเข้าใจ แต่ไม่ แสดงความหมายของความเกี่ยวโยงของข้อมูล
• ระดับโครงสร้างหลากหลาย
(Multi-structural) ผู้เรียนเชื่อมโยงข้อมูลหลาย ๆ ชนิดเข้า
ด้วยกัน ความหมายของความสัมพันธ์ระหว่างความเกี่ยวโยงของข้อมูลไม่ปรากฏ
• ระดับความสัมพันธ์ของโครงสร้าง
(Relational Level) ผู้เรียนแสดงความสัมพันธ์ของความ
เกี่ยวโยงของข้อมูลได้ ผู้เรียนแสดงความสัมพันธ์ของความเกี่ยวโยงของข้อมูล
และภาพรวมทั้งหมดได้
• ระดับแสดงความต่อเนื่องในโครงสร้างภาคขยาย
(Extended Abstract Level) ผู้เรียน
เชื่อมโยงข้อมูลนอกเหนือจากหัวข้อเรื่องที่ได้รับ
ผู้เรียนสามารถสรุปและส่งผ่านความสําคัญ และแนวคิดที่ ซ่อนอยู่ภายใต้กรณีตัวอย่าง
ตารางที่ 24 การจัดระดับ
SOLO Taxonomy คําถามและการตอบสนองที่คาดหวังจากผู้เรียน
ตารางที่ 25
ระดับของความเข้าใจ ระยะของการเรียนรู้ และคำกิริยาที่ใช้
ตารางที่ 26
ข้อตกลงเบื่องต้นเกี่ยวกับ SOLO Taxonomy
ประเด็นสําคัญที่พึงระมัดระวังในการใช้
SOLO Taxonomy
การปรับใช้ SOLO Taxonomy กับแนวคิดการสรรค์สร้างองค์ความรู้
ต้องนึกอยู่เสมอว่าปัญหาที่ ต้องกับการสอนและการเรียนรู้ มีอยู่มากมาย อาทิ
ในการสอนครูผู้สอนมีวิธีการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้อย่างไร
ครูผู้สอนต้องมีความรู้เกี่ยวกับ แรงจูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในการเรียนรู้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด
จะต้องมีสิ่งสนับสนุนอะไรจึงจะช่วยให้ผู้เรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้
การกำหนดระดับคุณภาพของสมรรถนะนี้เป็นการให้ความสำคัญที่การเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน
ตามคความสามารถ (แทน “สิ่งที่ครูมักระบุว่านักเรียนคนนั้น คนนี้ เก่ง /
ไม่เก่ง หรือ ดี / ไม่ดี) และการสร้าง แรงใจให้ผู้เรียนเพื่อจะนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดี
การปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าวนี้ สรุปได้
• ทําให้ ILO ชัดเจนยิ่งขึ้น (ความมุ่งมั่นเจตนา (Intended) การเรียนรู้
(Learning) ผลผลิต
(Outcomes)
ครูผู้สอนต้องบอกกระบวนการ
ILO ในการบรรลุผลการเรียนรู้
ให้นักเรียนได้รับทราบด้วย
SOLO Taxonomy มีเหมาะสมที่นํามาใช้ในการให้เหตุผลในการกําหนดสมรรถนะในหลักสูตร
และรายวิชาต่าง ๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
การกําหนดระดับคุณภาพของสมรรถนะตามแนวคิด
SOLO Taxonomy การเรียนรู้อย่างลุ่มลึก
ไม่ใช่เรียนแบบผิวเผิน
SOLO 4: การพูคอภิปราย สร้างทฤษฎี
ทํานายหรือพยากรณ์
SOL0 3 : อธิบาย วิเคราะห์ เปรียบเทียบ
SOLO2: บรรยาย รวมกัน จัดลําดับ
SOLO 1 : ท่องจํา ระบุ คํานวณ
บทบาทของการสอบ
“การสอบไม่ใช่สิ่งที่ตามมาแต่ต้องคิดไว้ก่อน”
แนวคิดสําคัญ ในการพัฒนาหลักสูตรเมื่อต้องการ
ทดสอบสมรรถนะหรือผลผลิตของการสอน นักพัฒนาหลักสูตรจะต้องมีความรู้ต่อไปนี้
ทฤษฎีการวางแผน
(ตลอดโปรแกรมของหลักสูตร)
ทฤษฎีเกี่ยวกับแรงจูงใจ
และสิ่งที่กระตุ้นแรงจูงใจ)
ทั้งนี้เพื่อปรับเปลี่ยนแนวคิด “การสอบคล้ายกับ “การปรับเปลี่ยนจากความชั่วร้าย
เป็นการ แรงจูงใจ (motivation) และแนวทางในการเรียนรู้ (learning
guiding) ที่เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียน สอนของครูผู้สอน
การจัดลำดับขั้นของจุดประสงค์การเรียนรู้ของบลูม
(Bloom Taxonomy 1956) เมื่อนำมาสัมพันธ์
กับแนวคิด SOLO Taxonomy ของ Biggs & Colis 1982)
SOLO 1 และ 2 สอดคล้องกับแนวคิดของ บลูม ในขั้นความรู้ (จำ) ความเข้าใจ และการนำไปใช้
ข้อมูลเชิงปริมาณ
SOLO 3 และ 4 สอดคล้องกับแนวคิดของ บลูม ในขั้นการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่า
ข้อมูลเชิงคุณภาพ
ตัวอย่าง การกำหนดค่าระดับคุณภาพการเขียนแผนจัดการเรียนรู้
ระดับ SOLO 1 หมายถึง การเลียนแบบและคงไว้ซึ่งของเดิม (Imitative
Maintenance) การเขียน แผนจะยึดตำราเป็นหลัก ทำแบบฝึกหัดตามหนังสือ
จัดกิจกรรมซ้ำๆเดิม ใช้สื่ออุปกรณ์สำเร็จรูปไม่มีการ ประเมินการใช้จริง
ระดับ SOLO 2 หมายถึง การปรับประยุกต์ใช้ (meditative)
การนําแผนการสอนที่มีอยู่ให้ดีขึ้น
มีการบูรณาการเนื้อหาให้สอดคล้องกับโลกแห่งความเป็นจริง(real world) มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาเล็กน้อย คำนึงสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ เน้นทฤษฎีมากกว่าการปฏิบัติ
ระดับ SOLO 3 หมายถึง การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Creative-generative)
การเขียนแผนที่คำนึงถึง พฤติกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
จะเขียนแผนแนวทางมหภาค ใช้ผลงานการวิจัยประกอบ การสอน เน้นมโนทัศน์ของวิชานั้นๆและบูรณาการแบบข้ามกลุ่มสาระ
การแปลความหมายของค่าเฉลี่ย
ค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.49 หมายความว่า
มีความสามารถในการเขียนแผนและการนำแผนจัดการ เรียนรู้ไปใช้ตามรูปแบบ The
STUDIES Model ระดับต่ำ ปรับปรุง
ค่าเฉลี่ย 1.50 - 2.49 หมายความว่า มีความสามารถในการเขียนแผนและการนำแผนจัดการ
เรียนรู้ไปใช้ตามรูปแบบ The STUDIES Model ระดับปานกลาง
พอใช้
ค่าเฉลี่ย 2.50 - 3.00 หมายความว่า
มีความสามารถในการเขียนแผนและการนำแผนจัดการ เรียนรู้ไปใช้ตามรูปแบบ The
STUDIES Model ระดับสูง
การประเมินภายนอก
การประเมินภายนอก
Clark (2005 : 2) กล่าวว่า
ว่า การประเมินคุณภาพภายนอก (External evaluation) เป็นการประเมิน
หลังการจัดการเรียนรู้หรือการจัดการเรียนการสอน
เพื่อนําผลการประเมินไปใช้ในการตัดสินคุณค่าของโปรแกรมการเรียนการสอน ให้ความสำคัญที่ผลลัพธ์
(Outcome) โดยสรุปการประเมินเพื่อศึกษา ของระบบโดยรวม
เป็นการประเมินที่มุ่งตอบคำถามว่าการเรียนรู้หรือการจัดการเรียนการสอน ความสำเร็จตามแผนที่วางไว้หรือไม่
ผู้เรียนบรรลุจดหมายและจุดประสงค์การเรียนรู้หรือไม่ ผลการดำเนินการ
มีประสิทธิภาพหรือไม่ การออกแบบการเรียนการสอนตลอดกระบวนการมีขั้นตอน
ขันตอนบ้างเพื่อนำไปเป็นข้อมูลสำหรับผู้ออกแบบการเรียนการสอนได้พัฒนาต่อไป เคมพ (KenP:
11 ) เสนอแนะแนวคิดการประเมินไว้ดังนี้
1. จุดมุ่งหมายทั้งหมดได้รับการบรรลุผลในระดับใดบ้าง
2. หลังจากการเรียนการสอนผ่านไปแล้ว
การปฏิบัติงานของผู้เรียนเกี่ยวกับการใช้ความรู้ ทักษะ
และการสร้างเจตคติมีความเหมาะสมหรือไม่
3. การใช้วัสดุต่างๆ
ง่ายต่อการจัดการสําหรับผู้เรียนจํานวนมาก ๆ หรือไม่
4. สิ่งอํานวยความสะดวก กําหนดการ และการนิเทศ
มีความเหมาะสมกับโปรแกรมหรือไม่ 5. มีการระวังรักษาการหยิบ
การใช้เครื่องมือและวัสดุต่าง ๆ หรือไม่
6. วัสดุต่าง ๆ ที่เคยใช้แล้ว ถูกนํามาใช้อีกหรือไม่
7. ผู้เรียนมีเจตคติอย่างไรบ้างต่อวิชาที่เรียน
วิธีการสอน กิจกรรม และเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อ ผู้สอน และผู้เรียนคนอื่น ๆ
การประกันคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพการศึกษา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542 มาตรา 48 “ให้หน่วยงานต้นสังกัด
และสถานศึกษา
จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาและให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายใน
เป็น ส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง”
การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้ได้มาตรฐาน
ทั้งในระดับอุดมศึกษา และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซึ่งแนวคิดที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
1. การประกันคุณภาพเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน
(ASEAN Cooperation Initiative in Quality Assurance)
การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างมาตรฐานและเสริมสร้าง
คุณภาพการศึกษาของหลักสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการประกันคุณภาพการศึกษาระดับในอาเซียน
(AUN Quality Assurance - AUN-QA) ที่ตระหนักถึงความสำคัญของประกันคุณภาพการศึกษาใน
ระดับอุดมศึกษาและความจำเป็นในการพัฒนาระบบประกันคุณภาพแบบองค์รวมเพื่อยกระดับมาตรฐาน
การศึกษา ให้แก่มหาวิทยาลัยในเครือข่าย AUN เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน
(ASEAN University Network - AUN) ซึ่งระบบประกันคุณภาพการศึกษาในอาเซียน
(AUN Quality Assurance – AUN-QA) เป็นกลไกการประกันคุณภาพการศึกษาและสร้างมาตรฐานการอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยสมาชิกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
การรับรองมาตรฐานระดับหลักสูตรจะเริ่มต้นจากความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
และนำมากำหนดไว้ในผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดว่าจะได้รับซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสูตรการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ระดับหลักสูตร ตามเกณฑ์ ASEAN
University Network Quality Assurance: AUN-QA โดยมีเกณฑ์พิจารณา 11
หมวด ได้แก่
1. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังไว้
2. ข้อกําหนดหลักสูตร
3. โครงสร้างหลักสูตรและเนื้อหา
4. แนวทางการสอนและการเรียนรู้
5. การประเมินผลนักศึกษา
6. คุณภาพบุคลากรสายวิชาการ
7. คุณภาพบุคลากรสายสนับสนุน
8. คุณภาพของนักศึกษาและการสนับสนุน
9. สิ่งอํานวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐาน
10. การเพิ่มคุณภาพ
11. ผลผลิต
มหาวิทยาลัยในเครือข่าย AUN ได้มีการนําเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้ในการประกันคุณภาพการศึกษา
ระดับหลักสูตร (AUN-QA Assessment) โดยหลักสูตรที่มีความพร้อม
มหาวิทยาลัยจะยื่นขอรับรองโดย AUN-QA ต่อไป
ภาพประกอบที่ 12 ความสัมพันธ์องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ Learning
outcome
2. การประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำนักทดสอบทางการศึกษา
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ (2545) ได้ศึกษาและพัฒนา
ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจากผลการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศเป็นกฎกระทรวงกำหนดระบบ
หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพ การศึกษาภายในสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
และเอกสารการดําเนินงานตามระบบดังกล่าว ได้แก่
1. ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
2. แนวทางการจัดทำระบบสารสนเทศสถานศึกษา
3. แนวทางการบริหารจัดการคุณภาพสถานศึกษา
4. แนวทางการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
5. แนวทางการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพภายในของสถานศึกษา
6. แนวทางการรายงานคุณภาพการศึกษาประจําปีของสถานศึกษา
7. แนวทางการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
โดยเขตพื้นที่
การศึกษา
ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
: กรอบและแนวการดําเนินงาน เขียนแสดง ความสัมพันธ์ได้ดังภาพประกอบที่ 13
3. การประเมินคุณภาพภายนอก
การประเมินคุณภาพภายนอก
คือ การประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา การติดตาม
การภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ซึ่งกระทำโดยสำนักงานรับรองมาตรฐาน และ เป็นคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)
(สมศ.) หรือผู้ประเมินภายนอกที่ได้รับการรับรองจาก โดยผู้เรียน ภายนอกที่ได้รับการรับรองจาก
สมศ. เพื่อมุ่งให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาให้ด ยิ่งขึ้น
ความสําคัญของการประเมินคุณภาพภายนอก
การประเมินคุณภาพภายนอก
มีความสําคัญและมีความหมายต่อสถานศึกษา หน่วยงานที่ ต้องและสาธารณชนดังต่อไปนี้สํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การ มหาชน), 2550)
1. เป็นการส่งเสริมให้สถานศึกษาพัฒนาเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน
และพัฒนาตนเอง ให้เต็ม ตามศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
2. เพิ่มความมั่นใจ
และคุ้มครองประโยชน์ให้ผู้รับบริการทางการศึกษาให้มั่นใจ ได้ว่า
สถานศึกษาจัดการศึกษามุ่งสู่คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนเป็น- คนดี
มีความสามารถ และ มีความสุขเพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
3. สถานศึกษาและหน่วยงานที่กํากับดูแล
เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานต้น สังกัด สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ชุมชนท้องถิ่นมีข้อมูลที่จะช่วย
ตัดสินใจในการวางแผนและดําเนินการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปในทิศทางที่
ต้องการและบรรลุเป้าหมาย ตามที่กําหนด
4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับนโยบายมีข้อมูลสําคัญในภาพรวมเกี่ยวกับคุณภาพและ
มาตรฐานของสถานศึกษาทุกระดับทุกสังกัดเพื่อใช้เป็นแนวทางในการกําหนดนโยบายทางการศึกษาและ
การจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
สํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) http://www.onesqa.or.th/th/index.php กําหนดหลักการสําคัญของการประเมินคุณภาพภายนอก
ซึ่งมีหลักการ สําคัญ 5 ประการ ดังต่อไปนี้
1) เป็นการประเมินเพื่อมุ่งให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการ ตัดสิน การจับผิด หรือการให้คุณ ให้โทษ
2) ยึดหลักความเที่ยงตรง
เป็นธรรม โปร่งใส มีหลักฐานข้อมูลตามสภาพความเป็นจริง (evidence based) และมีความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้(accountability)
3) มุ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมและประสานงานในลักษณะกัลยาณมิตรมากกว่าการกํากับ
ควบคุม
4) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการประเมินคุณภาพและการพัฒนาการจัดการศึกษาจากทุก
ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
5) มุ่งสร้างความสมดุลระหว่างเสรีภาพทางการศึกษากับจุดมุ่งหมายและหลักการศึกษา
ของชาติตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ให้เอกภาพเชิงนโยบาย แต่ยัง ความหลากหลายในทางปฏิบัติ โดยสถาบันสามารถกำหนดเป้าหมายเฉพาะ
และพัฒนาคุณภาพการศึกษา เต็มตามศักยภาพของสถาบันและผู้เรียน
วัตถุประสงค์ของการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา
การประเมินคุณภาพภายนอก
มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (สำนักงานรับรอง มาตรฐานแ ประเมินคุณภาพการศึกษา
(องค์การมหาชน), 2550)
1 เพื่อตรวจสอบ
ยืนยันสภาพจริงในการดำเนินงานของสถานศึกษา และ ประเมิน
คุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนด
2. เพื่อให้ได้ข้อมูลซึ่งจะช่วยสะท้อนให้เห็นจุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนาของ สถานศึกษา สาเหตุของปัญหาและเงื่อนไขของความสำเร็จ
3. เพื่อช่วยเสนอแนะแนวทางปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาแก่
สถานศึกษา และ หน่วยงานต้นสังกัด
4. เพื่อส่งเสริมให้สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพ
และประกันคุณภาพภายใน อย่าง ต่อเนื่อง
5. เพื่อรายงานผลการประเมินคุณภาพ
และมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ต่อ หน่วยงานเกี่ยวข้องและสาธารณชน
ผู้ประเมินภายนอกหมายถึงบุคคลหรือหน่วยงานที่มีคุณสมบัติตามที่กําหนดและได้รับการ
รับรอง จากสมศ. ให้ทําการประเมินคุณภาพภายนอก
มาตรฐานการศึกษา คือข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะคุณภาพที่พึงประสงค์และเป็นเป้าหมายที่
ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริม
กํากับดูแล ตรวจสอบประเมินผล และ การประกันคุณภาพการศึกษา
4. การประเมินคุณภาพภายใน
Cork (2005 : 2) กล่าวว่า
การประเมินคุณภาพภายในโปรแกรมการเรียนการสอน (internal evaluation)การประเมินที่นําไปใช้ในการตัดสินคุณค่าของโปรแกรมการเรียนการสอนในระหว่างดําเนินการ
การ ประเมินเน้นที่กระบวนการ (process) การประเมินคุณภาพภายในมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบแก้ไขและ
ปรับปรงสื่อการเรียนการสอน
เพื่อให้เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้นเมื่อนําไปใช้กับผู้เรียนโดยทั่วไป ในการประเมิน
จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน โดยกําหนดจุดมุ่งหมายคือ
การจัดการเรียนรู้นั้นหรือการเรียน
การสอนนั้นประสบผลสําเร็จตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ข้อมูลต้องถูกเก็บรวบรวมอย่างต่อเนื่อง
เพื่อตรวจสอบว่า การจัดการเรียนรู้หรือการเรียนการสอนนั้นพัฒนาผู้เรียนได้จริง
ถ้าพบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่มีปัญหาในการเรียน การสอนคล้าย ๆ กัน
อาจสรุปได้ว่าการจัดการเรียนรู้หรือเรียนการสอนนั้นมีบางอย่างที่ไม่เป็นไปตาม
จุดมุ่งหมาย ดังนั้นการประเมินคุณภาพภายในเป็นการประเมินเพื่อปรับปรุงดำเนินการได้ทันท่วงทีการ ประเมินนี้จึงมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของการจัดการเรียนการสอน เคมพ์ (Kemp
: 1971) เสนอแนะการ ประเมินไว้ดังนี้
1.ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในระดับที่เป็นที่ยอมรับตามจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ผู้เรียนมีข้อบกพร่องใดบ้าง
2. ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้ความรู้
หรือทักษะในระดับที่เป็นที่ยอมรับหรือไม่ ผู้เรียนมี ข้อบกพร่องใดบ้าง
3. ผู้เรียนใช้เวลานานเพียงใด
เพื่อให้เกิดประสบการณ์การเรียนรู้ และเป็นที่ยอมรับของผู้สอน หรือไม่
4. กิจกรรมต่าง ๆ
เหมาะสมสําหรับผู้เรียนและผู้สอนหรือไม่
5. วัสดุต่าง ๆ
สะดวกและง่ายต่อการติดตั้ง การหยิบ การใช้ หรือการเก็บรักษาหรือไม่
6. ผู้เรียนมีปฏิกิริยาต่อวิธีการเรียนการสอน
กิจกรรม วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ และวิธีการประเมินผล อย่างไรบ้าง
7. ข้อสอบเพื่อการประเมินตนเอง
และข้อสอบหลังจากเรียนแล้ว ใช้วัดจุดมุ่งหมายของการเรียน ได้หรือไม่
8. ควรมีการปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมในส่วนใดบ้าง
(เนื้อหา รูปแบบ และอื่น ๆ)
หลักสูตรมาตรฐานแห่งชาติสู่ชั้นเรียน (How to Use Standards in the Classroom)
หลักสูตรมาตรฐานแห่งชาติสู่ชั้นเรียน (How to Use Standards in the Classroom)
การเชื่อมโยงมาตรฐานการเรียนรู้กับหลักสูตรเป็นสิ่งสำคัญการเชื่อมโยงมาตรฐานการเรียน ระดับชาติ มาตรฐานการเรียนรู้และท้องถิ่น ไปสู่เป้าหมายการเรียนการสอนของนักเรียนและครู
Baris Douglas E and Car, Judy F (1996 : 18) ได้นําเสนอแผนภูมิแสดงความสอดคล้องเชื่อมโยงของหลักสูตร การ เรียนการสอน
และการประเมินแบบอิงมาตรฐานการเรียนรู้ไว้ดังแผนภาพประกอบที่ 11
ภาพประกอบที่ 11 หลักสูตรมาตรฐานแห่งชาติสู่ชั้นเรียน
ที่มา Harris. Douglas E and Carr, Judy F
(1996) หลักสูตรมาตรฐานแห่งชาติสู่ชั้นเรียน
จากแผนภาพประกอบที่
สรุปได้ว่า
กรอบหลักสูตรมลรัฐเชื่อมโยงและสะท้อนสิ่งที่พึงประสงค์ในมาตรฐานการเรียนรู้ระดับชาติ
หลักสูตรและการประเมินระดับท้องถิ่นและโรงเรียน
สะท้อนถึงมาตรฐานที่กำหนดในกรอบ
หลักสูตรมลรัฐ
กรรมการเรียนการสอนและหน่วยการเรียน ชื่อมโยงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้มลรัฐ หลักสูตรท้องถิ่นและหลักสูตรสถานศึกษาในขณะเดียวกันก็ต้องสนองตอบความสนใจและความต้องการของนักเรียน และชุมชน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวกิจกรรมการเรียนการสอนและหน่วยการเรียน จึงควรสร้างจาก
แหล่งข้อมูลของท้องถิ่น หรือเหตุการณ์ประเด็นปัญหาต่าง ๆ ในท้องถิ่น
ดำเนินการเรียนรู้ของนักเรียนทั้งในระดับชั้นเรียน ท้องถิ่น
และมลรัฐ ควรใช้ข้อมูลจากผลงานและการ
เอิบัติงานของนักเรียนที่เกิดขึ้นในแต่ละหน่วยการเรียน
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่จะบอกได้อย่างดีว่าผล
การเรียนของนักเรียนถึงมาตรฐานหรือไม่
มาตรฐานสู่ความสำเร็จ :
หลักสูตร การประเมินผล และแผนปฏิบัติการ
เมื่อโรงเรียนหรือสถานศึกษาได้ใช้มาตรฐานใดแล้วทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเข้าใจว่ามาตรฐาน ของโรงเรียนคืออะไร และจะนำไปใช้อย่างไร
คณะกรรมการสถานศึกษาจะต้องใช้แผนการประเมินที่ เกี่ยวข้องกับขั้นตอนสำคัญ คือ
การประเมินสภาพปัจจุบันของหลักสูตร การเรียนการสอน และการประเมินที่
สอดคล้องกับมาตรฐาน การได้ข้อมูลว่ามาตรฐานใดบ้างที่จะนำมาจัดการเรียนการสอนและการประเมินผล
และนักเรียนจะบรรลุมาตรฐานตามที่ระบุไว้ในวิสัยทัศน์นั้น จะต้องเตรียมวิธีปฏิบัติ
กระบวนการ และ หลักสูตรการเรียนการสอนต่าง ๆ ให้พร้อม การตัดสินใจว่าจะสอนและประเมินมาตรฐานใด
จะสอน มาตรฐานดังกล่าวในระดับชั้นใด รายวิชาใด สิ่งเหล่านี้คณะกรรมการวิชาการ
จะต้องกำหนดขอบข่ายโดยใช้ ฐานข้อมูลว่าใครจะสอนและประเมินมาตรฐานใด และจำเป็นต้องมีการทบทวนแผนว่ามาตรฐานที่กำหนดได้เหมาะสมหรือไม่จุดเน้นของหลักสูตรสถานศึกษาเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้
คำถามเดิน ที่ว่า ใครสอนหัวข้อใด หรือ ครูจะใช้สื่อการสอนอะไร
จะถูกปรับเปลี่ยนเป็น ใครสอนมาตรฐานอะไร การ เรียนการสอนใช้รูปแบบใด
และใครประเมินมาตรฐานใด โดยวิธีใด เป็นต้น
กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและแผนการประเมิน
Carr, Judy F and Harris, Douglas E (2001 : 45 - 49)เสนอคำถามที่เกี่ยวข้องคือ
จะสร้างการประเมินระดับชั้นเรียนที่สอดคล้องกับมาตรฐานอย่างไร ซึ่งการ
ประเมินชั้นเรียนไม่ได้เป็นเพียงการทดสอบ การวัด หรือการให้คะแนน แต่การประเมินเป็นบรณาการขอ
การสอน เป็นกระบวนการของการวัดปริมาณ การอธิบาย
การรวบรวมข้อมูลหรือการให้ผลป้อนกับเกี่ยวกับ การเรียนรู้
เพื่อให้รู้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
จุดมุ่งหมายเบื้องต้นของการประเมินชั้นเรียนโดยใช้มาตรฐาน เป็นฐานคือ
บอกให้รู้เกี่ยวกับการสอนและการปรับปรุงการเรียนรู้
ยิ่งไปกว่านั้นการประเมินยังสะท้อนสิ่งต่างๆ ดังนี้
ให้แนวทางเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงการศึกษา
ชี้ให้เห็นความสําเร็จของนักเรียนแต่ละคนหลักสูตรเฉพาะและการปฏิบัติในสถานศึกษาชี้ให้เห็นว่านักเรียนมีความรู้และทักษะแบบบูรณาการตลอดหลักสูตรหรือไม่
เสนอวิธีการและข้อมูลเพื่อสื่อถึงผลการประเมินอย่างมีประสิทธิภาพ
การประเมินประสิทธิผลของชั้นเรียนต้องกระทําอย่างต่อเนื่องและสัมพันธ์กับการเรียนรู้ใน
ขณะนั้น รวมทั้งมีลักษณะรวบยอด(แต่ละองค์ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของระบบทั้งหมดคํานึงถึงความต้องการ ของผู้เรียนกลุ่มต่างๆและคํานึงถึงจุดดีและปัญหาต่างๆของนักเรียน)ตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้จากหลักสูตร เดียวกันหรือข้ามหลักสูตร
มีลักษณะหลากหลาย(หลากหลายแง่มุมและยืดหยุ่นได้เหมาะสมทั้งด้านพัฒนาการและด้าน วัฒนธรรม
คํานึงถึงรูปแบบการเรียนรู้และพหุปัญญา ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินตนเอง)
เชื่อถือได้เชิง(เทคนิคมีความต่อเนื่องและกระทําติดต่อกันแม่นตรงและเชื่อถือได้และรายงานอย่าง ถูกต้อง)
การวางแผนการประเมินต้องมองในมุมกว้าง
แผนการประเมินคือเครื่องมือออกแบบหรือชุดของ ตัวเลือกที่คำนึงว่า การเรียนรู้ของนักเรียนจะได้รับการประเมินให้สัมพันธ์กับมาตรฐานได้อย่างไร
การใช้แผนการประเมินนี้ทําให้มั่นใจได้ว่า
ผลป้อนกลับจากการนําแผนการประเมินไปใช้
จะชี้แนะกระบวนการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการ เรียนการสอน
นักเรียนมีโอกาสหลากหลายที่จะแสดงผลสำเร็จตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
นักเรียนให้คําตอบที่สรรค์สร้างเองได้หลายแบบ เช่น ผลงาน (รายงานที่เขียน ภาพ
หุ่นจำลอง แผนที่) และการปฏิบัติ (กิจกรรม การสืบค้น การสัมภาษณ์ การแสดงละคร)
การตอบสนองของนักเรียนหลายแบบ
จะพหปัญญา และจุดแข็งต่าง ๆ ของนักเรียนแต่ละคน
การประเมินด้วยคําตอบแบบเลือกตอบและการ
ตอบแบบสั้นมักเป็นส่วนหนึ่งของแผนการประเมินนี้
แนวการให้คะแนนแบบต่าง ๆ
ใช้เพื่อกำหนดผลป้อนกลับด้านการเรียนรู้ของนักเรียน
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
-
การเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน คำว่า “ เพื่อนช่วยเพื่อน ” บางคนอาจจะเคยได้ยินคำ ๆนี้มาแล้ว ซึ่งเราจะพบกันมากในเรื่องของการศึกษา ...
-
ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Bloom (Bloom’s Taxonomy) Bloom เป็นนักการศึกษาชาวอเมริกัน เชื่อว่า การเรียนการสอนที่จะประสบความสำเร็จแ...
-
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล ( Digital Learning ) D : การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล ( Digital Learning ) การเรียนรู้จากสื่อดิจิ...